10 จุดเด่นของ gdh ที่รู้เลยว่าแบบนี้มาจากค่ายหนัง GDH แน่นอน!

จุดเด่นของ gdh ค่ายหนังอารมณ์ดี GDH559 ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะทำหนังออกมากี่เรื่องต่อกี่เรื่อง แค่คนดูเห็นโปสเตอร์หรือตัวอย่างหนังก็เดาออกได้เลยว่าเป็นของค่ายนี้ ทั้งพระเอกเอยที่เหมือนจะมีกันอยู่ไม่กี่คน #เอ้ย ที่อาจจะมีผลงานมาให้เราดูกันบ๊อยบ่อย และไหนจะโอปอล์ที่เป็นเหมือนสมบัติของค่ายเพราะอยู่มาตั้งแต่หนังเรื่องแรกๆ จนตอนนี้ลูกสองแล้วเห้ย!

1. พระเอกต้องเป็นเต๋อหรือซันนี่ จุดเด่นของ gdh

จุดเด่นของ gdh ทั้งๆ ที่ GDH ก็มีพระเอกอยู่หลายคน แต่ทำไม๊ ทำไม หนังออกมากี่เรื่องก็เจอพี่เต๋อ กับพี่ซันนี่กันอยู่สองคน จนเริ่มจะงงแล้วว่า สรุปเพื่อนสนิทนี่คนไหนเล่นกันแน่ เอ๊ะ หรือแฟนเดย์คือซันนี่? ชักจะเริ่มงง ซึ่งพอไปดูรายชื่อหนังทั้งหมดของ GDH (ขออนุญาตรวมกับ GTH ด้วย) ก็พบว่ามีหนังทั้งหมดสี่สิบกว่าเรื่อง และในนั้นก็มีหนังที่พี่เต๋อกับพี่ซันนี่เล่นรวมกันก็ปาไปจะครึ่งหนึ่งแล้ว

2. ผู้กำกับและทีมงานต้องมาเป็นตัวประกอบในหนัง

เงินมีมากมาย แต่ถ้าจะหา extra เราต้องเอาผู้กำกับมาเล่น! อาจด้วยการถือเคล็ดหรืออะไรก็แล้วแต่ เห็นได้ว่าหนังหลายๆ เรื่องของ GDH มักจะมีผู้กำกับชื่อดังมาโผล่ในฉากต่างๆ อยู่ตลอด ทั้งพี่เอส(ผู้กำกับแฟนฉัน)เอย หรือจะครูบิว ครูเงาะ(ครูสอนการแสดง)เอย แหม่ ใช้งานได้คุ้มค่าจริงๆ เยี่ยมยอดกระเทียมดอง

3. โอปอล์อยู่มาตั้งแต่ใสๆ จนตอนนี้แซ่บเฟ่อร์มีลูกสอง

อีกคนที่คุ้นหน้ากันอยู่ตลอด เป็นใครไปไม่ได้นอกจากโอปอล์ เจ๊ใหญ่ของค่ายเลยก็ว่าได้ ซึ่งเจ๊เขาเล่นหนังเรื่องแรกๆ ก็คือ แจ๋ว(2004) ถ้านับมาจนถึงปัจจุบันก็อยู่มา 13 ปีแล้ว พัฒนาการของพี่โอปอล์ก็เห็นได้อย่างชัดเจน และเป็นที่รักของคนไทยทุกคนนน ปล.จำเจ๊ได้จากเรื่องเพื่อนสนิท ที่เล่นเป็นนางพยาบาล ใครจะไปคิดว่าเป็นพยาบาลตอนนั้น แล้วตอนนี้จะได้แต่งงานกับหมอโอ้ค พรหมลิขิตชัดๆ ฉลาดเกมส์โกง 

4. แข่งประกวดตั๋วยาว

ปากบอกว่าไม่ได้ซีเรียสเรื่องรายได้ ทำหนังออกมาเพื่อให้คนไทยได้มีความสุข นู่นนี่นั่น แต่ทำไม๊ ทำไม หนังใหม่มาทีไร เอ๊า เร่เข้ามา ใครตั๋วยาวสุดชิงรางวัลรับของที่ระลึกกันไปเลยย #แซวนะ #ห้ามโกรธ #รักนะ

5. ฮา

กลายเป็นค่ายหนังที่โดนตีตราไปแล้ว ว่าต้องฮา ถ้าไม่ฮาไม่ใช่ค่ายนี้! ทำเอาเวลามีหนังเรื่องไหนซีเรียสๆ หน่อย ทีมงานคงจะเหนื่อยน่าดู เอ๊าตูจะฮายังไงวะนี่ นี่มันหนังดราม่าว้อย

6. ตัวอย่างหนังบางทีก็ไม่ตรงกับสิ่งที่จะได้ดูในโรง

โปรโมทมาอย่างปั้บปี้เลิฟ เอ๊าตูเข้าไปดูเมิงฮิปเตอร์มากจ้า ก็รู้อยู่นะว่าโปรโมตต้องปัง ต้องน่าสนใจ ต้องดูแมส แต่บางทีก็แอบเสียใจว่าทำไมไม่เหมือนที่คิดเลย #ไหนว่าจะไม่หลอกกันไหนว่าเธอคือหนังรัก ตอนนี้เลยแก้ปัญหาใหม่ ด้วยการไม่ต้องดูตัวอย่างหนังมันซะเลย เพราะรักค่ายนี้อยู่แล้ว ยังไงก็ต้องดูทุกเรื่อง เลยเอาเป็นว่าไปลุ้นในโรงเลยละกัน

7. ต้องชื่อยาวๆ และมีสองจุด(..) แต่อ่านแล้วไม่เข้าใจ

บางทีก็งงว่านี่ชื่อหนังหรือฟาร์มไข่ปลาคาเวียร์ มีจุดเต็มไปหมด แถมยาวโคตรรรรรร คนดูก็เก่งไปอีกกก…ยาวขนาดนี้ก็ยังจำกันได้

8. เสื้อต้องมา ของที่ระลึกต้องจัดเต็ม

สร้างหนังหรือว่ากระเช้าของชำร่วยรับปีใหม่กันแน่? มีทั้งเสื้อ ทั้ง gift box ทั้งนู่น ทั้งนี่ ทั้งนั้น ทำเอาคนดูอย่างเราๆ นอกจากจะต้องจ่ายค่าหนังแล้วยังจะเสียเงินค่าเสื้อ ค่าของที่ระลึกอีก #ละใครเขาบังคับให้ซื้อ !!

9. บอกว่าไม่หวังรายได้ แต่พอจะถึงร้อยล้านต้องรีบฉลอง!

“สำหรับเรื่องนี้ก็ทำออกมาเพื่อคนดูทุกคน ไม่ได้โฟกัสกับรายได้ฮะ” -ผกก. ไม่ได้กล่าว / จริงๆ ฉลองก็ถูกแล้ว ตูจะแซะทำไมนักหนา ขอโทษสำหรับความนักเลงคีย์บอร์ดมา ณ ทีนี้ด้วยฮะ

10. คุณภาพ คุณภาพ คุณภาพ

ใครไม่รู้ : “เห้ยแบบนี้มันเรียกตีหัวแล้วลูบหลังนี่หว่า”

ข้าเอง : “ป่าวเฟ้ยยยย ก็พูดไปตามเนื้อผ้า เพราะยังไงก็คิดว่า GDH (เหมารวมถึง GTH) ยังเป็นค่ายหนังที่มีคุณภาพที่สุดค่ายหนึ่งในไทย และข้าก็จะยังรอชมหนังเรื่องต่อๆ ไป จนถึงวันที่ข้าสร้างค่ายหนังขึ้นมาเองนั่นแหละ! วะฮะฮ่า”

ประวัติ

พ.ศ. 2558–2559 : เปิดตัวในนาม GDH
จีดีเอช เกิดขึ้นจากการร่วมทุนระหว่าง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) และบริษัท หับ โห้ หิ้น บางกอก จำกัด หลังการปิดตัวของจีเอ็มเอ็ม ไท หับ หรือ จีทีเอช โดยจดทะเบียนบริษัทเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ด้วยทุนจดทะเบียน 150,000,000 บาท ภายใต้สัดส่วนการถือครองหุ้นเท่าเดิม คือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ถือครอง 51% และ หับโห้หิ้น บางกอก ถือครอง 15% แต่เปลี่ยนสัดส่วนหุ้นของ ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ มาให้บุคคลากรอื่น ๆ ภายในบริษัทถือหุ้นแทน 57 ราย คิดเป็น 34% ของทั้งบริษัท

จิระ มะลิกุล อธิบายเพิ่มเติมว่าจีดีเอช ย่อมาจาก Gross Domestic Hapiness ที่หมายถึง หน่วยวัดความสุขของผู้ชมและคนทำงาน ส่วนตัวเลข 559 คือตัวเลขวันเปิดทำการวันแรกคือวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2559 และยังพ้องกับจำนวนผู้ถือหุ้นใหม่ทั้ง 59 คนด้วย อนึ่ง จีดีเอช ได้ใช้สำนักงานหลักเป็นที่ตั้งเดิมของหับโห้หิ้นฟิล์มและจีทีเอช แต่ได้ขยายบริษัทเพิ่มเติมภายในพื้นที่ใกล้เคียง โดยในช่วงที่ยังไม่มีตราสัญลักษณ์ (โลโก้) อย่างเป็นทางการออกมา บริษัทได้ใช้ชื่อทางการค้าว่า จีดีเอช ห้าห้าเก้า จนกระทั่งได้ออกสัญลักษณ์อย่างเป็นทางการออกมา ได้เปลี่ยนชื่อเป็น จีดีเอช

หลังการก่อตั้งบริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด ได้เสนอซีรีส์จำนวน 4 เรื่องทันที ได้แก่ ซีรีส์ ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ ออกอากาศทางช่องจีเอ็มเอ็ม 25 เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2559 ซีรีส์ ไอซียู พยาบาลพิเศษ..เคสพิศวง ออกอากาศทางช่องจีเอ็มเอ็ม 25 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2559 ซีรีส์แก๊สโซฮัก รักเต็มถึง ออกอากาศทางไลน์ทีวีเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2559 และซีรีส์ มาลี เพื่อนรัก…พลังพิสดาร 2 ที่ยังไม่มีกำหนดออกอากาศ และยังได้ผลิตภาพยนตร์ต่อเนื่องอีกสองเรื่อง เรื่องแรกเป็นแนวรัก-ชีวิต เรื่อง แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว กำกับโดยบรรจง ปิสัญธนะกูล บริษัทได้จัดแถลงข่าวภาพยนตร์เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2559 ณ ควอเทียร์ ซีเนอาร์ต ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ และจัดฉายรอบสื่อมวลชนในวันที่ 29 สิงหาคม 2559 ณ พารากอนซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ภาพยนตร์ได้รับการตอบรับอย่างดี ฉายวันแรกสามารถทำรายได้ 8.28 ล้านบาท ติดอันดับ 1 ของบอกซ์ออฟฟิสประเทศไทย 3 สัปดาห์ ทำรายได้รวม 110.91 ล้านบาท ส่วนด้านรางวัล แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว ได้รับเสนอชื่อเข้าชิงภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากหลายสถาบัน รวมถึงยังได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดนิยมจากสตาร์พิกส์อวอร์ด และอีกเรื่องหนึ่งเป็นแนวทริลเลอร์วัยรุ่นกำกับโดย ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ

จีดีเอช ร่วมกับสิงห์ คอร์เปอเรชัน ได้ผลิตภาพยนตร์เรื่อง พรจากฟ้า โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผ่านการเล่าเรื่องราวของหนุ่มสาว 3 คู่ที่มีลักษณะในการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันไป ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวเข้าฉายอย่างไม่เป็นทางการตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน และเข้าฉายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม อีกทั้งยังออกอากาศทางโทรทัศน์ผ่านทางช่องวัน 31 ในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ไลน์ทีวี ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นการฉายทางโทรทัศน์และแอปพลิเคชัน โดยที่การเผยแพร่ในโรงภาพยนตร์ก็ยังดำเนินอยู่ โดยการทำภาพยนตร์นี้ ไม่ได้ริเริ่มการทำมาจาก การสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แต่ได้ริเริ่มโครงการนี้ก่อนเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นมาเป็นเวลาร่วมปี การฉายภาพยนตร์พรจากฟ้า ยังทำให้แผนงานภาพยนตร์ของภาคภูมิ ต้องเลื่อนจากแผนเดิมจากเดิมที่จะฉายในเดือนธันวาคมอีกด้วย

พ.ศ. 2560 : เพื่อน..ที่ระลึก และภาพยนตร์ไทยแห่งปี ฉลาดเกมส์โกง
ภาพยนตร์ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2560 เรื่องแรกของบริษัท เรื่อง ฉลาดเกมส์โกง ที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริง เริ่มจากจิระ มะลิกุล หนึ่งในผู้อำนวยการสร้างเสนอแนวคิดเรื่องการโกงข้อสอบให้กับนัฐวุฒิ พูนพิริยะ เพื่อนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเขา โดยเล่าเรื่องของนักเรียนชั้นมัธยมปลายกลุ่มหนึ่งที่คิดหารายได้จากการโกงข้อสอบ

ฉลาดเกมส์โกง ได้รับการตอบรับอย่างดี เป็นภาพยนตร์ไทยที่ทำรายได้สูงสุดในต่างประเทศ ทำลายสถิติภาพยนตร์ไทยเรื่อง องค์บาก ที่ทำรายได้ในต่างประเทศ 515 ล้านบาท และ ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ที่ทำรายได้ในต่างประเทศ 231 ล้านบาท เมื่อปี พ.ศ. 2547 และสร้างสถิติเป็นภาพยนตร์ไทยที่สามารถคว้ารางวัลได้มากที่สุดบนเวทีรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ จำนวนทั้งสิ้น 12 รางวัล จากการถูกเสนอชื่อเข้าชิง 16 รางวัล (15 สาขา)

ในขณะที่ภาพยนตร์แนวสยองขวัญเรื่อง เพื่อน..ที่ระลึก ภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ของปีที่ออกฉายในเดือนกันยายน ทำรายได้มาเป็นอันดับสามของบ็อกซ์ออฟฟิศในประเทศไทยในสามวันแรก หลังจากที่ภาพยนตร์ดังกล่าวได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์เป็นเวลากว่า 1 เดือน ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ปิดโปรแกรมฉายไปที่รายได้ 34.70 ล้านบาท

พ.ศ. 2561 : น้อง.พี่.ที่รัก โฮมสเตย์ และภาพยนตร์สารคดี
ในปี 2561 บริษัทได้ปล่อยผลงานออกมาถึง 4 เรื่องด้วยกัน โดยมีค่ายลูกคือ จอกว้าง ฟิล์ม ผลิตเอง 2 เรื่องคือ น้อง.พี่.ที่รัก กำกับโดย วิทยา ทองอยู่ยง ฉายวันที่ 10 พฤษภาคม และหนังทริลเลอร์วัยรุ่นแฟนตาซี Homestay กำกับโดย ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ ซึ่งพร้อมฉายหลังจากถูกเลื่อนจากกำหนดฉายเดิมคือธันวาคม พ.ศ. 2559 และหลังจากปล่อยคลิปไวรัลปริศนาใช้ชื่อว่า K1189B54N ผ่านสื่อต่างๆมาแล้ว ทางค่ายก็ได้เปิดเผยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะนำแสดงโดย ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ และ เฌอปราง อารีย์กุล โดยมีกำหนดฉายอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 ตุลาคม ปีเดียวกัน

ส่วนอีก 2 เรื่องเป็นภาพยนตร์สารคดี เรื่องแรกคือ BNK48 : GIRLS DON’T CRY กำกับโดย นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ผลิตโดย บีเอ็นเคโฟร์ตีเอต ออฟฟิศ และ แซลมอน เฮ้าส์ เป็นภาพยนตร์เนื่องในโอกาสครบรอบหนึ่งปี บีเอ็นเคโฟร์ตีเอต โดยมีหัวข้อว่าตลอดหนึ่งปีผ่านเรื่องราวอะไรกันมาบ้าง กำหนดฉาย 16 สิงหาคม ส่วนเรื่องที่สองเป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากโครงการ ก้าวคนละก้าว ใช้ชื่อว่า 2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว กำกับโดย ณฐพล บุญประกอบ โดยจะเป็นการเล่าเรื่องและติดตาม ตูน บอดี้สแลม ตั้งแต่ก่อนเริ่มวิ่งจนถึงหลังจุดสิ้นสุดการวิ่งในมุมมองที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน กำหนดฉาย 6 กันยายน โดยทางโครงการ คิงเพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมสนับสนุนโครงการก้าวคนละก้าว เพื่อขอรับบริจาครายได้ซื้ออุปกรณ์การแพทย์ เพื่ออาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นวงเงิน 27 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการฉายภาพยนตร์ “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” ให้คนไทยทั่วประเทศได้รับชม กว่า 720,000 ที่นั่ง แบบไม่เสียค่ารับชม

พ.ศ. 2562 : Friend Zone ภาพยนตร์ใหม่ รายการวาไรตี้ และละคร
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2561 จีดีเอชร่วมกับค่ายลูกคือนาดาวบางกอกได้จัดงาน GDH X นาดาว Party นิ่งเป็นปรับ ขยับเป็นเปิด ณ พารากอนซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อเป็นการขอบคุณแฟน ๆ ที่ติดตามผลงานของจีดีเอชและนาดาวบางกอก รวมถึงละครโทรทัศน์ที่กำลังออกอากาศอยู่ในขณะนั้นอย่าง เลือดข้นคนจาง และเพื่อเป็นการเดินหน้าต่อ ทางค่ายได้เปิดเผยข้อมูลโปรเจกต์ใหม่จำนวน 8 โปรเจกต์ โดยมีภาพยนตร์ 3 เรื่อง ซีรีส์อีก 4 เรื่อง และรายการเรียลลิตี้อีก 1 รายการ

โดยภาพยนตร์เรื่องแรกเป็นหนังโรแมนติกคอมเมดี้เรื่อง Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน ซึ่งกำกับโดย ชยนพ บุญประกอบ นำแสดงโดย ณภัทร เสียงสมบุญ พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ และ เจสัน ยัง โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2562 และมีกำหนดฉายอย่างเป็นทางการ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 ส่วนเรื่องที่สองเป็นหนังแนวคอมเมดี้เรื่อง ตุ๊ดซี่ส์แอนด์เดอะเฟค กำกับโดย ปิยะชาติ ทองอ่วม และใช้นักแสดงชุดเดิมจากฉบับซีรีส์ทั้งหมด ซึ่งได้แก่ เผ่าเพชร เจริญสุข รัฐนันท์ จรรยาจิรวงศ์ ธงชัย ทองกันทม และ ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ และมีนักแสดงรับเชิญคือ อารยา เอ ฮาร์เก็ต มีกำหนดฉายอย่างเป็นทางการ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2562 และเรื่องที่สาม ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ เป็นภาพยนตร์แนวดราม่าที่เขียนบท อำนวยการสร้าง และกำกับโดย นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ซึ่งในวันดังกล่าว ภาพยนตร์ยังอยู่ในช่วงขั้นแรกของการดำเนินการ ทางค่ายจึงมีคำใบ้เพียงภาพ ไทม์แมชชีน จากการ์ตูนเรื่อง โดราเอมอน เท่านั้น และภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวนำแสดงโดย ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง และ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ และมีกำหนดฉายอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2562

สำหรับซีรีส์ เรื่องแรกเป็นซีรีส์โรแมนติกแฟมิลี่ One Year 365 วัน บ้านฉัน บ้านเธอ นำแสดงโดย จิรายุ ละอองมณี ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ เฌอปราง อารีย์กุล ปัญสิกรณ์ ติยะกร วีรยา จาง ณัฐทิชา จันทรวารีเลขา และสมาชิกบางส่วนจากบีเอ็นเคโฟร์ตีเอตรวมจำนวน 8 คน กำกับโดย จิรัศยา วงษ์สุทิน ออกอากาศทางไลน์ทีวีแบบเอ็กซ์คลูซีฟในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เรื่องที่สองเป็นซีรีส์วัยรุ่นรีเมคจากภาพยนตร์ ฉลาดเกมส์โกง กำกับโดย พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ นำแสดงโดย เพลินพิชญา โกมลารชุน, จินเจษฎ์ วรรธนะสิน, ศวรรยา ไพศาลพยัคฆ์, และ พาริส อินทรโกมาลย์สุต มีกำหนดออกอากาศทางช่องวัน และออกอากาศที่ประเทศจีนพร้อมกันผ่าน เทนเซนต์ วิดีโอ ใน พ.ศ. 2563 เรื่องที่สามเป็นละครแนวโรแมนติกแฟนตาซีเรื่อง รักฉุดใจนายฉุกเฉิน โดยมี เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ เป็นผู้ผลิตร่วม กำกับโดย นฤเบศ กูโน นำแสดงโดย ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ และ ดาวิกา โฮร์เน่ ออกอากาศทางช่องวันในเดือนกันยายน พ.ศ. 2562 และเรื่องที่สุดท้ายเป็นซีรีส์แนวโรแมนติก-คอมเมดี้-แฟนตาซี Great Men Academy สุภาพบุรุษสุดที่เลิฟ กำกับโดย วรรณแวว และ แวววรรณ หงษ์วิวัฒน์ ที่มีผลงานเขียนบทเรื่อง ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น ออกอากาศทางไลน์ทีวีแบบเอ็กซ์คลูซีฟเป็นระยะเวลาหนึ่ง และออกอากาศซ้ำบนโทรทัศน์ทางช่องวัน

สำหรับรายการเรียลลิตี้ เป็นรายการเรียลลิตี้คาบาเรต์โชว์ในชื่อ ซุป’ตาร์ คาบาเรต์ ผลิตโดยจีดีเอช ร่วมกับกู๊ดธิงส์แฮปเพน มีมิติ และ EMBRACE TEAM ที่ร่วมผลิตรายการ Top Chef Thailand Season 2 และมี พิษณุ นิ่มสกุล เป็นพิธีกร รายการมีกำหนดออกอากาศใน พ.ศ. 2562 ทางช่องวัน

พ.ศ. 2563-2564 : ฉลาดเกมส์โกงฉบับละคร และภาพยนตร์ใหม่ 5 เรื่อง
ใน พ.ศ. 2563 จีดีเอช ได้ยุติแผนการดำเนินการโครงการต่าง ๆ ลงเป็นการชั่วคราว รวมถึงเลื่อนฉายภาพยนตร์หนึ่งเรื่องจากเหตุการระบาดทั่วของไวรัสโคโรนาในประเทศไทย พ.ศ. 2563 จนกระทั่งในเดือนสิงหาคม จีดีเอชได้ออกอากาศละครโทรทัศน์ ฉลาดเกมส์โกง Bad Genius The Series ทางช่องวัน 31 ในโครงการ ช่องวัน สิงหา มาเต็ม นับเป็นการออกอากาศละครหลังข่าวเป็นครั้งแรกของจีดีเอช รวมถึงยังออกอากาศทาง วีทีวี และเทนเซนต์ วิดีโอ แบบเอ็กซ์คลูซีฟ จนเมื่อละครอวสานลง จีดีเอช ก็ยังไม่มีการประกาศโครงการใหม่ ๆ เพิ่มเติมแต่อย่างใด

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2563 จีดีเอชได้จัดงานแถลงข่าวพิเศษ GDH Xtraordinary 2021 Line-up ณ พารากอนซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อเป็นการขอบคุณแฟน ๆ ที่ติดตามผลงานของจีดีเอชมาตลอด 5 ปี นับตั้งแต่เริ่มดำเนินการ และเพื่อเป็นการเข้าสู่ปีที่ 6 อย่างเต็มภาคภูมิ ทางค่ายได้เปิดเผยข้อมูลโปรเจกต์ใหม่จำนวน 5 โปรเจกต์ โดยเป็นภาพยนตร์ใหม่ทั้งหมด ซึ่งจะเข้าฉายตั้งแต่ช่วงปลายปี พ.ศ. 2563 ไปจนตลอดปี พ.ศ. 2564

เรื่องแรกเป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ตามทางถนัดของ เมษ ธราธร เรื่อง อ้าย..คนหล่อลวง นำแสดงโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ธิติ มหาโยธารักษ์ คัทลียา แมคอินทอช และพงศธร จงวิลาส มีกำหนดเข้าฉาย 3 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ส่วนอีกสี่เรื่องเป็นภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายใน พ.ศ. 2564 ทั้งหมด ประกอบด้วย ภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง โกสต์แล็บ..ฉีกกฎทดลองผี นำแสดงโดย ธนภพ ลีรัตนขจร พาริส อินทรโกมาลย์สุต และณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ กำกับโดย ปวีณ ภูริจิตปัญญา มีกำหนดเผยแพร่บนเน็ตฟลิกซ์ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง ร่างทรง เป็นภาพยนตร์ร่วมทุนระหว่างจีดีเอช และค่ายภาพยนตร์ Showbox โดยโปรดิวเซอร์ นา ฮง-จิน จากประเทศเกาหลีใต้ กำกับโดย บรรจง ปิสัญธนะกูล เขียนบทภาพยนตร์โดย ฉันทวิชช์ ธนะเสวี มีกำหนดเข้าฉาย 28 ตุลาคม พ.ศ. 2564

ในส่วนของภาพยนตร์อีกสองเรื่องได้แก่ บุพเพสันนิวาส ๒ และ W ได้ถูกเลื่อนฉายเป็น พ.ศ. 2565 ทั้งหมด เนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นซ้ำอีกครั้งในช่วงเดือนมีนาคม-กันยายน พ.ศ. 2564

พ.ศ. 2565 : คอนเทนต์ใหม่ 7 เรื่อง
เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2564 จีดีเอช ได้ประกาศเปิดตัวคอนเทนต์ใหม่จำนวน 7 เรื่อง ที่จะเผยแพร่ให้ได้รับชมตลอดปี 2565 โดยแบ่งเป็นภาพยนตร์ผลิตเองจำนวน 5 เรื่อง ภาพยนตร์จัดจำหน่าย 1 เรื่อง และละครโทรทัศน์ยาวทางช่องวัน 31 1 เรื่อง

ในส่วนของภาพยนตร์มีภาพยนตร์พร้อมฉายในช่วงครึ่งปีแรกจำนวน 3 เรื่อง เรื่องแรกเป็นภาพยนตร์แนวรักโรแมนติก One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ ผลิตโดย JET TONE FILM, BLOCK 2 Distribution และ Houseton ของ นัฐวุฒิ พูนพิริยะ โดยมี หว่องกาไว เป็นโปรดิวเซอร์ นำแสดงโดย ธนภพ ลีรัตนขจร ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ วิโอเลต วอเทียร์ ศิรพันธ์ วัฒนจินดา พลอย หอวัง ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เรื่องที่สองเป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติก-แอคชัน Fast and Feel Love เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ ของ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ นำแสดงโดย อุรัสยา เสปอร์บันด์ ณัฏฐ์ กิจจริต อนุสรา กอสัมพันธ์ วิภาวีร์ พัทธ์ณศิริ มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2565 และเรื่องที่สามเป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ อิงประวัติศาสตร์ บุพเพสันนิวาส 2 เป็นภาพยนตร์ร่วมทุนกับ บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น โดยเป็นการต่อยอดความสำเร็จของละคร บุพเพสันนิวาส ให้อยู่ในรูปของภาพยนตร์ และปูทางสู่ละครพรหมลิขิต ที่จะออกฉายในปีเดียวกัน นำแสดงโดย ราณี แคมเปน ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ พาริส อินทรโกมาลย์สุต สุวัจนี พานิชชีวะ ปวีณ์นุช แพ่งนคร นิมิตร ลักษมีพงศ์ ชานน สันตินธรกุล กำกับการแสดงโดย อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

ต่อมาเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 จีดีเอช ได้จัดแถลงข่าวเปิดตัวโครงการภาพยนตร์เพิ่มอีก 3 เรื่อง ซึ่งเข้าฉายในปี พ.ศ. 2565 จำนวน 1 เรื่อง ได้แก่ OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะ ผลิตโดย Hello Filmmaker และ iSM กำกับโดย ฐิติพงศ์ เกิดทองทวี ผู้กำกับจาก Hello Filmmaker ที่หันมากำกับภาพยนตร์ยาวครั้งแรก นำแสดงโดย เพลินพิชญา โกมลารชุน วงศ์รวี นทีธร พชร จิราธิวัฒน์ และพลอย หอวัง โดยเข้าฉายในวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2565

พ.ศ. 2566 : เธอกับฉันกับฉัน, บ้านเช่าบูชายัญ และผลงานในอนาคต
ในเดือนกุมภาพันธ์ ภาพยนตร์แนวโรแมนติกเรื่อง You & Me เธอกับฉันกับฉัน กำกับโดย วรรณแวว-แวววรรณ หงษ์วิวัฒน์ และบรรจง ปิสัญธนะกูล ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ นอกจากนี้ ยังมีภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง Home For Rent บ้านเช่าบูชายัญ ผลิตโดยจอกว้างฟิล์ม กำกับโดยโสภณ ศักดาพิศิษฐ์ นำแสดงโดย ศุกลวัฒน์ คณารศ และ นิษฐา จิรยั่งยืน โดยกำหนดเข้าฉายในวันที่ 6 เมษายน ซึ่งเลื่อนเวลามาจากแผนเดิมที่วางไว้ในเดือนตุลาคมปีก่อนหน้า

นอกจากนี้จีดีเอชยังมีโครงการภาพยนตร์เรื่อง W (ชื่อชั่วคราว) ภาพยนตร์ร่วมทุนกับนาดาวบางกอก แต่ได้หยุดโครงการลงไม่มีกำหนดจากการยุติการดำเนินการของนาดาวบางกอก โครงการภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง มิ้ง ภาพยนตร์ภาคต่อจาก ร่างทรง (พ.ศ. 2564) โดยยังเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างจีดีเอชกับ Showbox ประเทศเกาหลีใต้ และโครงการละครโทรทัศน์ช่องวัน 31 อีกหนึ่งเรื่อง จุดเด่นของ gdh

บทความที่น่าสนใจ